วันวาเลนไทน์เป็นวันพิเศษที่มีการเฉลิมฉลองมานานหลายศตวรรษ และมีบทบาทสำคัญอย่างมากในวรรณกรรมและกวีนิพนธ์ที่มักเกี่ยวข้องกับความรักที่โรแมนติก เป็นแรงบันดาลใจให้กวีและนักเขียนจำนวนนับไม่ถ้วนแสดงความรู้สึกผ่านผลงาน
หนึ่งในรูปแบบวรรณกรรมและบทกวีที่เกี่ยวข้องกับวันวาเลนไทน์ คือ เรื่องของช่อดอกไม้ในธีมวาเลนไทน์ เนื่องจากดอกไม้เป็นสัญลักษณ์แห่งความรักและความเสน่หาที่มีมาช้านาน กวีและนักประพันธ์หลายคนจึงใช้เรื่องราวของดอกไม้แสดงความรู้สึกที่มีต่อคนรักผ่านตัวอักษร อันที่จริงบทกวีและเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับวันวาเลนไทน์จะเน้นไปที่การมอบของขวัญด้วยช่อดอกไม้
และอีกหนึ่งรูปแบบที่พบได้ทั่วไปในวรรณกรรมและบทกวีที่เกี่ยวข้องกับวันวาเลนไทน์ คือ เรื่องราวของร้านดอกไม้ กวีและนักประพันธ์หลายคนใช้ร้านดอกไม้เป็นสถานที่ตั้งต้นสำหรับเรื่องราวและบทกวีโรแมนติกของพวกเขา ร้านดอกไม้จึงมักถูกมองว่าเป็นสถานที่แห่งความรักและความโรแมนติก ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผู้คนมักจะไปซื้อช่อดอกไม้ให้กับคนที่ตนรัก
ตัวอย่างของวรรณกรรมและบทกวีที่โด่งดังและได้รับการยกย่องว่าโรแมนติกที่สุด ได้แก่ Sonnet 18 บทกวีโดย วิลเลียม เชกสเปียร์ กวีที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกคนหนึ่งที่รวมสาระสำคัญของความรักได้อย่างชัดเจนและรัดกุมเพียง 14 บรรทัด
วันวาเลนไทน์มักถูกกล่าวถึงในวรรณคดีและบทกวีว่าเป็นวันพิเศษสำหรับคู่รัก กวีและนักประพันธ์ส่วนใหญ่จะใช้วันวาเลนไทน์เป็นการแสดงความรักและใช้เวลากับคนรัก บทกวีและเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับวันวาเลนไทน์จึงมุ่งเน้นไปที่ช่วงเวลาพิเศษร่วมกันระหว่างคู่รัก และอารมณ์ที่สัมผัสได้ในวันพิเศษนั้น
วันวาเลนไทน์จึงมีบทบาทสำคัญอย่างมากในวรรณกรรมและกวีนิพนธ์สมัยก่อน ไม่ว่าจะเป็นช่อดอกไม้ หรือร้านดอกไม้ก็ตาม อีกทั้งวันวาเลนไทน์เองก็ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของความรักและความเสน่หา เป็นแรงบันดาลใจให้กวีและนักประพันธ์จำนวนนับไม่ถ้วนแสดงความรู้สึกผ่านผลงานของพวกเขาอย่างที่พวกเราได้ชมและศึกษากันอย่างในปัจจุบัน
