สูตร ปลาร้าหลนหมูสับ รสกลมกล่อม หอมกะทิ

ปลาร้าหลนเป็นอาหารที่มักจะรับประทานกับผักสด มีเครื่องสมุนไพร รสชาติเข้มข้น กลมกล่อม หากคิดจะทำไว้รับประทานเองก็ต้องมีวัตถุดิบที่มีคุณภาพ และใส่เครื่องปรุงในอัตราส่วนที่พอเหมาะ จึงจะทำให้รสชาติออกมาอร่อย บทความนี้มีสูตรการทำปลาร้าหลนหมูสับ ที่สามารถทำตามได้ไม่ยาก

สูตรการทำปลาร้าหลนหมูสับ

ส่วนผสม

  • หมูสับ 300 กรัม
  • น้ำปลาร้าปรุงสุก 10 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่า 150 กรัม
  • หัวกะทิ 270 กรัม
  • น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  • ผงปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกหนุ่ม 2 เม็ด
  • พริกขี้หนู 20 เม็ด
  • ตะไคร้ซอย 2 ต้น
  • หอมแดงซอย 5 หัว
  • ใบมะกรูดซอย 5 ใบ
  • ข่าอ่อนซอย 2 ช้อนโต๊ะ
  • กระชายซอย 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  • นำกะทิใส่หม้อตั้งไฟ พอกะทิเดือดแล้วให้ใส่หมูสับลงไป ใช้ทัพพีคน รอจนเดือดอีกครั้ง
  • ใส่น้ำปลาร้า น้ำปลา น้ำมะขามเปียก ผงปรุงรส น้ำตาลปี๊บ ใช้ทัพพีคน จากนั้นเติมน้ำเปล่าลงไป รอจนน้ำเดือด
  • ใส่กระชาย หอมแดง ข่าอ่อน ตะไคร้ คนส่วนผสมให้เข้ากัน พอเดือดอีกครั้งให้ใส่ใบมะกรูด พริกหนุ่มซอย และพริกขี้หนู พร้อมตักเสิร์ฟใส่ถ้วย

เคล็ดลับการเลือกน้ำปลาร้ามาทำปลาร้าหลน

โดยทั่วไปการทำหลนปลาร้าจะใช้น้ำปลาร้าสำเร็จรูป โดยให้เลือกใช้จากผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือ และต้องมีวันผลิต และวันหมดอายุอย่างชัดเจน แต่หากต้องการใช้น้ำปลาร้าที่มีตัวปลาผสมอยู่ด้วย ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยให้เลือกปลาร้าที่มีตัวปลาไม่เปื่อยยุ่ยจนเกินไป สำหรับการนำมาปรุงหลนปลาร้าก็ให้ตักเอาเฉพาะน้ำปลาร้ามาปรุงรส ก็จะได้รสชาติหลนปลาร้าที่อร่อยไปอีกแบบ

เคล็ดลับการเลือกเนื้อหมูมาทำปลาร้าหลน

เพื่อให้ได้ปลาร้าหลนหมูสับที่มีรสชาติอร่อย รับประทานได้อย่างปลอดภัย วัตถุดิบอย่างเนื้อหมูก็ต้องใส่ใจในการเลือกดังนี้

  • เลือกเนื้อหมูที่มีสีชมพูอ่อน ไม่สีแดงสดเกินไป เนื่องจากอาจเป็นหมูที่ฉีดสารเร่งเนื้อแดง
  • เนื้อหมูที่สดต้องมีความยืดหยุ่น ใช้มือกดลงไปแล้วเนื้อหมูควรเด้งตัว ไม่เป็นรอยบุ๋มหรือยุบตามแรงกด
  • ลักษณะของมันหมูควรเป็นสีขาว หากมันหมูมีสีเหลือง หมูอาจใกล้เน่าแล้ว
  • เนื้อหมูไม่ช้ำเลือด ไม่มีสีเขียวคล้ำ หรือสีซีดเกินไป

ผักที่รับประทานกับปลาร้าหลนหมูสับ

ปลาร้าหลนหากนำมารับประทานกับผักสดก็จะเข้ากันได้เป็นอย่างดี โดยสามารถหาผักมารับประทานได้ตามชอบ เช่น มะเขือเปราะ แตงกวา ถั่วพู ถั่วฝักยาว เป็นต้น

หากต้องการเก็บหลนปราร้าไว้รับประทานในวันถัดไป ควรเก็บไว้ในภาชนะที่ปิดสนิท และเก็บไว้ในตู้เย็น หากไม่เก็บไว้ในตู้เย็นหลนปลาร้าอาจบูดได้ เนื่องจากมีส่วนผสมของกะทิ