อาการปวดหลังสามารถที่จะเกิดขึ้นได้จากการใช้ชีวิตประจำวัน หากมีอาการปวดบ่อยครั้งในแต่ละวัน ก็อาจจะกระทบกับการทำกิจกรรมต่างๆ เพราะมีอาการปวดหลังมาเป็นอุปสรรค ดังนั้นควรจะหาวิธีแก้ปวดหลังตั้งแต่เนิ่นๆ หากปล่อยนานเกินไปอาจจะมีอาการปวดแบบเรื้อรัง และนำไปสู่โรคกระดูกสันหลังได้
วิธีแก้ปวดหลัง ที่สามารถทำตามได้
เคลื่อนไหวร่างกายบ้าง
ไม่ควรที่จะนั่งหรือยืนในท่าเดิมนานๆ ควรจะเปลี่ยนท่าทาง หรือเคลื่อนไหวร่างกายไปมาบ้าง เพื่อให้กล้ามเนื้อมีการผ่อนคลายเป็นการช่วยลดอาการปวดหลังลงได้
ใช้น้ำแข็งประคบ
การประคบน้ำแข็งนั้นจะต้องให้คนช่วยทำให้ เพราะว่าหากทำเองจะไม่สะดวก โดยนำน้ำแข็งมาห่อด้วยผ้าสะอาดแล้วทำการประคบที่หลัง หรือเลื่อนไปตามแนวของหลังเหมือนกับการนวด ทำแบบนี้ประมาณ 10 นาที ก็จะช่วยลดอาการอักเสบของกล้ามเนื้อบริเวณหลังลงได้
นอนราบเหยียดกล้ามเนื้อหลัง
ให้หาที่นอนที่ไม่แข็งและก็ไม่นุ่มจนเกินไป แล้วทำการปูที่นอนไว้ที่พื้น ต่อจากนั้นให้นอนหงายหลังและดันแผ่นหลังให้ติดกับที่นอน แขนแนบลำตัวทั้งสองข้าง พร้อมกับทำการเกร็งบริเวณหน้าท้อง ให้ทำค้างไว้แบบนี้ประมาณ 10 วินาที แล้วค่อยพัก หลังจากนั้นให้ทำซ้ำแบบเดิม ประมาณ 2-3 ครั้ง จะช่วยให้แผ่นหลังที่มีอาการปวดเมื่อยและอ่อนล้า กลับมาเป็นปกติได้เร็วขึ้น
ทำท่าพระจันทร์เสี้ยว
การทำท่าพระจันทร์เสี้ยว ให้ยืนตรงโดยให้ปลายเท้าห่างกันเพียงเล็กน้อย ต่อจากนั้นให้ยกแขนขึ้นทั้ง 2 ข้าง แล้วเอามือประกบกันไว้เหนือศรีษะ แล้วเอียงตัวไปด้านข้างจนรู้สึกตึง แขนจะต้องเหยียดตึง เข่าจะต้องตึง แล้วให้เปลี่ยนมาทำสลับอีกข้าง ท่านี้จะช่วยลดอาการปวดหลังและทำให้กระดูกสันหลังด้านข้างมีความยืดหยุ่น
ทำท่านอนงอเข่า
ให้นอนหงายราบไปกับพื้น ต่อจากนั้นให้ยกเข่าทีละข้าง แล้วให้ใช้มือทั้งสองข้างทำการรวบหน้าขาเอาไว้ โดยดึงเข่าให้เข้ามาชิดอกมากที่สุด ให้ทำแบบนี้ค้างไว้ 10-20 วินาที หลังจากนั้นให้ปล่อยขาลง แล้วให้ทำแบบเดิมโดยการสลับขาอีกข้างมาทำ สำหรับท่านอนงอเข่าจะช่วยบรรเทาอาการปวดหลังบริเวณส่วนล่าง หรือส่วนที่ใกล้กับสะโพก
ทำท่าสะพานโค้ง
การทำท่าสะพานโค้ง ให้นอนหงายแล้วชันเข่าขึ้นทั้ง 2 ข้าง จากนั้นให้ยกสะโพกและเอวขึ้น แล้วให้ยื่นมือไปจับที่ส้นเท้า หากยื่นมือไปจับส้นเท้าไม่ไหว ให้วางแขนทั้งสองข้างแนบกับพื้น ทำแบบนี้ค้างไว้ 10 วินาที สำหรับท่านี้จะช่วยลดอาการเมื่อยล้าบริเวณแผ่นหลังจากการที่จะต้องทำงานในท่าเดิมนานๆ นอกจากนี้ยังช่วยผ่อนคลายความเมื่อยล้าไปจนถึงบริเวณของบั้นเอวได้อีกด้วย
อาการปวดหลังหากเป็นไม่มากก็สามารถที่จะทำตามคำแนะนำที่ให้ไว้เพื่อช่วยบรรเทาอาการ แต่หากมีอาการปวดหลังมาก และเป็นบ่อยครั้ง จนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ก็ควรที่จะไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทำการตรวจเพื่อหาสาเหตุและเข้ารับการรักษาต่อไป
