ประกันการก่อสร้าง คืออะไร สิ่งที่ต้องทำก่อนจะว่าจ้างบริษัทรับสร้างบ้าน

การ ประกันการก่อสร้าง หรือที่เรียกกันว่า การค้ำประกันผลงาน เป็นส่วนหนึ่งในสัญญาก่อนที่ผู้ว่าจ้างจะต้องตกลงกับ บริษัทรับเหมาก่อสร้าง เพื่อให้บ้านเป็นไปตามแบบแปลนที่กำหนดเอาไว้ นอกเหนือจากสัญญาว่าจะสร้างบ้านจนแล้วเสร็จ

โดยวงเงินการประกันบ้าน จะอยู่ในงบประมาณการว่าจ้าง โดยส่วนใหญ่จะแบ่งจ่ายเป็นงวด จะมีเงินบางส่วนที่ถูกหักออกจากจำนวนเต็มที่ต้องจ่ายเพื่อให้ผู้รับเหมาไม่เบี้ยวทิ้งงาน และรับผิดชอบความเสียหายทั้งก่อนสร้างและหลังสร้าง เมื่อสร้างเสร็จก็จะจ่ายเงินคืนให้บริษัทรับเหมาจนครบ

การหัก ประกันการก่อสร้าง

โดยส่วนใหญ่จำนวนเงินที่ผู้ว่าจ้างจะหักไว้เป็นค่าค้ำประกันจะอยู่ที่ 5-10 % ของเงินที่ต้องจ่ายในแต่ละงวดเช่น หากสร้างบ้านราคา 1 ล้านบาท สัญญาจะจ่าย 5 งวด เท่ากับว่าผู้ว่าจ้างต้องจ่ายงวดละ 2 แสน หากหักค่าประกัน ไว้ 5% ซึ่งคือ 1 หมื่นบาทต่องวด เมื่อสร้างเสร็จผู้จ้างก็มีเงินค้างจ่ายให้กับบริษัทรับเหมาอีก 5 หมื่นบาท เมื่อตรวจสอบว่างานเรียบร้อยดี เงินก้อนนี้ก็จะจ่ายกลับคืนให้บริษัทรับเหมา

ประกันการก่อสร้าง ประเภทการประกันผลงาน

บริษัทรับเหมาแต่ละที่จะมีการทำสัญญาการค้ำประกันผลงานที่แตกต่างกันออกไป โดยจะดูความเหมาะสมและองค์ประกอบต่าง ๆ แต่โดยทั่วไปแล้วการรับประกันจะมีดังนี้

งานโครงสร้างหลัก – เป็นส่วนสำคัญที่ต้องมีในสัญญาประกันบ้านมากที่สุด โดยทั่วไปหากบ้านที่มีโครงสร้างใหญ่ ต้องมีการตอกเสาเข็มการรับประกันอาจจะนานตั้งแต่ 3 -10 ปี ซึ่งหากมีการทรุดตัวโดยไม่ได้เกิดจากภัยธรรมชาติบริษัทรับเหมาก็ต้องเข้ามาดูแลซ่อมแซมโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

งานหลังคา – บริษัทรับเหมาขนาดเล็กอาจจะรับประกัน 1-3 ปี แต่หากเป็นบริษัทใหญ่มักจะรับประกันถึง 2-5 ปี

งานสีทาบ้าน – ส่วนใหญ่รับประกัน 1-3 ปี แต่ต้องใช้สีที่มีมาตรฐาน

งานประตู หน้าต่าง มุ้งลวด หรือเหล็กดัด – ขึ้นอยู่กับข้อตกลงในการเลือกใช้วัสดุ ปกติรับประกัน 1-2 ปี

แบบไหนที่ไม่เข้าข่าย ประกันการก่อสร้าง

หากผู้ว่าจ้าง และบริษัทรับเหมาตรวจเอกสารอย่างเช่น แปลนบ้าน หรือผังบ้านไม่รอบคอบ หรือสร้างบ้านขัดต่อกฎหมายสิ่งแวดล้อม หรือใช้อาคารผิดประเภท จนทำให้เกิดความเสียหายต่าง ๆ จะทำให้การค้ำประกันผลงานเป็นโมฆะได้ด้วยเช่นกัน

ดังนั้น ประกันการก่อสร้าง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ผู้ว่าจ้างมีความมั่นใจว่า การสร้างบ้านได้มาตรฐาน มีความแข็งแรงทนทาน ถูกสร้างโดยมืออาชีพ และมีความปลอดภัยให้อยู่อาศัยอย่างสบายใจและคุ้มกับเงินค่าจ้างที่จ่ายไป ดังนั้นก่อนจะสร้างบ้านจึงไม่ควรลืมในส่วนนี้โดยเด็ดขาด